คด” ในพจนานุกรม ฉบับราชบัญฑิตยสถาน ได้นิยามความหมายว่า “ หินที่เกิดขึ้นในพืชหรือสัตว์ “ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ใช่ฟอสซิลที่ถูกทับถมและเปลี่ยนสภาพตามกาลเวลา แต่เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในขณะที่พืชและสัตว์นั้น ยังมีชิวิตอยู่เกิดในช่วงชิวิตของมันเนื่องจากความผิดธรรมชาติ จึงมักมีความเชื่อว่ามี พลังอำนาจบางอย่างมาทำให้เป็นไป และพลังอำนาจนั้นต้องมีความเข้มแข็งมากด้วย
เม็ดขนุนทองแดง หรือ คดขนุน เม็ดขนุนชนิดนี้เกิดจากลูกขนุนที่ออกลูกใต้ต้นแล้วโผล่ออกมาจากพื้นดินโดยมากผลไม้ที่เกิดลูกด้วยอาการแปลกประหลาดดังนี้ “โบราณถือว่าเป็นอาเพศอัปมงคลต้องมีการทำบุญบ้านหรือทำบุญสวนในบริเวณที่ต้นไม้นั้น ๆ ขึ้นอยู่ต่อจากทำบุญโดยมีการสวดพระพุทธมนต์ดั่งพิธีสงฆ์แล้ว ก็มักมีการเซ่นและบวงสรวงเทพเจ้าในสถานที่นั้นซึ่งเป็นผู้มาสถิตอยู่ ณ ต้นขนุนที่เกิดลูกอาเพศขึ้น” การเซ่นและบวงสรวงนี้ ถือว่าอาจจะกลับเหตุร้ายให้กลายเป็นดีได้ คือมีผลทำให้เจ้าของต้นขนุนนั้นบังเกิดโชคลาภ โภคทรัพย์ไหลมาเทมา เกิดความสมบูรณ์พูลสุข ทำมาค้าขึ้น เป็นที่น่าอัศจรรย์
เม็ดขนุนทองแดง นี้มีลักษณะเหมือนเม็ดขนุนภายในวงธรรมดา แต่ว่าทั้งเม็ดเป็นเนื้อหินมีสีแดงคล้ำเลยเรียกกันว่าเม็ดขนุนทองแดง หาใช่ว่ามีลักษณะเป็นโลหะทองแดงไม่ เม็ดขนุนทองแดงมีสรรพคุณทางคงกระพันชาตรีเหนียว ผู้ใดมีพกแล้วของมีคมจะไม่ระคายผิวหนังเลย
โดยเมื่อหลายปีมาแล้วนั้นได้มีเรื่องเล่ากันว่า นายคำ (ขอสงวนนามสกุล) คนบ้านป่าเหว อำเภอสันกำแพง นครเชียงใหม่ ได้ไปพบเม็ดขุนนทองแดงเข้าในบริเวณสวนของตน ชั้นแรกนายคำไม่ทราบว่าเป็นขนุนทองแดง ได้นำขนุนนั้นเก็บกลับมาบ้านออกผ่าแล้วแบ่งกันกินภายในเพื่อนบ้าน ภายหลังเด็กชายลูกเพื่อนบ้านของนายคำเก็บเอาเม็ดขนุนทองแดงนั้นมาให้นายคำ นายคำจึงนำไปให้พระภิกษุผู้มีอายุรูปหนึ่งดู แล้วท่านกำชับให้นายคำเก็บเม็ดขนุนนั้นไว้ให้ดี พร้อมกับลงอักขระตามพิธีของท่านลงในเม็ดขนุนทองแดงนั้น ต่อมาไม่นานนายคำ ได้ดำเนินอาชีพค้าขายจนร่ำรวยมีภรรยาหลายคน ภรรยาคนหนึ่งเป็นพม่า ได้ชวนนายคำ อพยพไปอยู่ประเทศพม่า เมื่อนายคำอพยพไปอยู่ประเทศพม่าแล้ว ฐานะของนายคำก็ดียิ่งขึ้นเป็นลำดับ กล่าวกันว่านายคำหวงเม็ดขนุนทองแดงนั้นด้วยชีวิต และไปไหนๆ ก็ตาม ต้องพกเม็ดขนุนกายสิทธิ์นั้นติดตัวไว้ไม่ยอมห่างเลย
“โบราณาจารย์กล่าวกันว่าของอาถรรพณ์ประเภทนี้มักจะได้แก่คนที่มีเมตตาคุณประจำใจอยู่เสมอ”
ซึ่งบางพวกถึงกับเชื่อว่าเป็นการจุติลงมาเกิดในภพมนุษย์ของทวยเทพในลักษณะหนึ่ง วัตถุประเภทนี้จึงมีสรรพคุณต่างๆทั้งทางด้านเป็นยารักษาโรคและมีอำนาจในด้าน ต่างๆ ในสมัยโบราณเหล่านักรบและผู้ที่ต้องเสี่ยงภัยต่างเสาะแสวงหาคดชนิดต่างๆมา เพื่อป้องกันตัวตามความเชื่อของแต่ละคน เนื่องจากคดพบได้ในพืชและสัตว์จึงมีหลายชนิดซึ่ง พอจะค้นคว้ามาเล่าสู่กันได้ ดังนี้
“คดขนุนเป็นของดีที่มีเทวดารักษา ดีทางหนุนนำดวงชะตา ให้โชคให้ลาภ เป็นแคล้วคลาด คงกระพันอีกด้วยครับ โบราณท่านว่ากันว่า ผู้ใดมีคดขนุนไว้จะไม่มีอดอยากครับ คดขนุนนั้นเป็นคดที่คนโบราณเสาะแสวงหาและกล่าวถึงมากที่สุด เพราะเป็นคดที่มีวิธีหาค่อนข้างจะง่ายกว่าคดชนิดอื่นๆและก็มีอานุภาพจัดอยู่ในระดับชั้นแถวหน้าเช่นกัน คดขนุนนั้นเมื่อลอกเปลือกนอกออกจะเห็นว่ามีอยู่หลายเนื้อหลายสีซึ่งก็ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศของแต่ละท้องที่ไป ที่พบเห็นทั่วๆไปมักจะเป็นสีขาวขุ่น ขาวอมเหลือง อมแดง อมเขียว อมม่วง
การหาคดขนุนนั้นผู้รู้ท่านบอกเอาไว้ว่า อันคดขนุนนั้นจะเกิดอยู่ในผลที่อยู่ใต้ดิน นั่นก็คือขนุนที่เกิดบริเวณโคนต้นใต้ดิน คือเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลขนุนหมดแล้วหากเดินผ่านบริเวณต้นใดแล้วได้กลิ่นหอมของขนุนโชยขึ้นมาจากใต้ดินบริเวณโคนต้นไหน แสดงว่าบริเวณนั้นได้เกิดคดขนุนขึ้นแล้วให้ขุดดินลงไปเถิดก็จะพบลูกขนุนสุกงอมก็ให้ทำการผ่าหาเอา ซึ่งบางผลก็จะมีคดขนุนเกิดขึ้นเพียงเม็ดเดียวโบราณเรียกว่า “คดขนุนโทน”ซึ่งเม็ดจะค่อนข้างใหญ่ แต่บางครั้งก็จะมีมากกว่าหนึ่งเม็ดซึ่งก็จะมีขนาดเท่าๆกับเม็ดขนุนทั่วๆไป อานุภาพของคดขนุนนั้นเด่นดีทางโชคลาภ เมตตา ค้าขาย หนุนดวงชะตากันภัย มหาอุด คงกะพัน วิเศษนักแล!!”
ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เรียบเรียงโดย: โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์